พระเครื่องเนื้อโลหะแต่ละแบบต่างกันยังไง แบบไหนดีมากกว่ากัน?

พระเครื่องเนื้อโลหะ

ทำความรู้จักกับพระเครื่องเนื้อโลหะแต่ละแบบ ว่าแบบไหนดีที่สุด และแต่ละแบบมีความโดดเด่นต่างกันอย่างไร ก่อนตัดสินใจเช่าวัตถุมงคลเป็นของตัวเอง

เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ทุกครั้งที่มีการจำหน่ายวัตถุมงคล ทำไมพระหน้าตาเหมือนกัน แต่มวลสารต่างๆ ที่นำมาจัดสร้างองค์พระถึงได้ต่างกัน ยิ่งถ้าเป็นเนื้อโลหะ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นมาก จนทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า พระเครื่องเนื้อโลหะดีจริงหรือเปล่า หรือแพงเพราะเป็นเงินบริสุทธิ์ ทองบริสุทธิ์เท่านั้น แต่พุทธคุณเหมือนกันทุกอย่างกับเนื้อดิน บทความนี้มีคำตอบให้คุณแน่นอน

พระเครื่องเนื้อโลหะ กับความเชื่อโบราณว่ามีพุทธคุณมากที่สุด

นับตั้งแต่โบราณมา มีความเชื่อกันอย่างหนึ่งว่าโลหะที่มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม จะสามารถรับกระแสพลังงาน หรือปราณได้มากที่สุด ซึ่งก็ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลุกเสกคาถาในพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆ ใช้พลังจิตเสกอัดปราณเข้าไปในวัตถุมงคล ยิ่งถ้าเนื้อที่นำมาทำวัตถุมงคลเป็นเนื้อนิ่มเมื่อไร ก็จะยิ่งรับพลังงานได้ดีมากขึ้นเท่านั้น

โลหะที่คนโบราณเชื่อกันว่า สามารถรับปราณได้ดีที่สุด ได้แก่ ทองคำ, เงิน, ปรอท, ตะกั่ว, นวโลหะ (ทองคำผสมเงิน), เมฆสิทธิ์, เมฆพัตร (โลหะผสมกันหลายๆ อย่างตามวิธีเล่นแร่แปรธาตุแบบโบราณ) เรียงตามลำดับกันไป

เคยสังเกตกันมั้ยว่าไม่ค่อยมีพระเครื่องที่ทำด้วยเหล็ก เพราะเหล็กเป็นโลหะที่แข็งมาก ทำให้อัดปราณเข้าไปได้ยาก เว้นแต่เหล็กที่นำมาอัดปราณ จะเป็นเคล็ดพิเศษหรือเป็นทนสิทธิ์ เช่นเหล็กน้ำพี้ เหล็กตะปูตอกโบสถ์ ซึ่งเหล็กพิเศษเหล่านี้ก็เป็นที่เชื่อกันมาอย่างยาวนานว่าแรงกว่าโลหะชนิดอื่น ๆ และยังมีคุณสมบัติพิเศษในตัวเอง เช่น กันผี กันอาวุธ กันคุณไสย

ส่วนใครที่สงสัยว่า สามารถเอาอะลูมิเนียมมาทำเป็นหนึ่งในพระเครื่องเนื้อโลหะได้หรือไม่ เพราะอะลูมิเนียมก็เนื้อนิ่มเช่นกัน แต่ในด้านความเชื่อ ก็มองว่าอะลูมิเนียมเป็นโลหะประดิษฐ์ที่เสกปราณง่ายจริง แต่ปราณที่อัดเข้าไปจะรั่วไหลง่าย เหมือนแบตเตอรี่ที่เสื่อมแล้ว จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เว้นแต่จะเป็นอลูมิเนียมพิเศษที่จัดว่าเป็นโลหะอาถรรพ์ เช่น อะลูมิเนียมที่นำมาทำหม้อไฟนำหน้าศพ (เป็นส่วนผสมของตะกรุดดับไฟธาตุ ของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน) หรือตะกรุดที่ทำจากเนื้อขาปิ่นโตอลูมิเนียม สำหรับใส่ข้าวไปวัด เป็นต้น

พระเครื่องเนื้อโลหะแต่ละแบบ มีสรรพคุณเด่นด้านไหนเป็นพิเศษหรือไม่

ถึงแม้ว่าโลหะต่างๆ จะสามารถรับปราณได้ดี แต่เนื้อโลหะชนิดต่างๆ ก็มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง แบบที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ได้แก่

  • ทองคำ และเงิน : สามารถเสกได้ทุกพุทธคุณ แต่จะดีเป็นพิเศษ หากเสกทางด้านลาภ หรือเมตตา
  • ทองแดง ทองเหลือง : เป็นเนื้อโลหะกลางๆ ที่สามารถเสกได้ทุกพุทธคุณเช่นกัน
  • นวโลหะ : หากเป็นเนื้อนวโลหะที่มีการผสมตามตำราโบราณ จะช่วยในเรื่องของการเสริมดวง ลดเคราะห์ร้ายได้ด้วย 
  • ตะกั่ว : จะดีเป็นพิเศษ หากนำไปเสกในด้านคงกระพัน กันภัย ไม่ค่อยนิยมนำไปเสกทางเมตตา และลาภ เพราะตะกั่วหาได้ทั่วไป ไม่ได้มีค่าสูงนัก
  • เหล็ก : จะต้องเป็นเหล็กพิเศษ หรือพวกทนสิทธิ์ นิยมเสกกันผี กันภัย กันคุณไสย
  • อลูมิเนียม : ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา หากเป็นทนสิทธิ์ หรือโลหะอาถรรพ์ ก็มักจะใช้กันผี กันภัยเช่นกัน 

อ่านเพิ่มเติม : ทนสิทธิ์คืออะไร ใช้ป้องกันด้านใด มีแบบไหนบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม : พระเนื้อชิน คืออะไร มีพุทธคุณอะไรบ้าง ?

นอกจากความโดดเด่นของเนื้อโลหะแต่ละชนิดแล้ว โลหะต่างๆ เหล่านี้ก็ยังถูกโฉลก – ไม่ถูกโฉลกกับผู้ห้อยแตกต่างกันออกไปอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องของพุทธคุณพระที่จะช่วยส่งเสริมผู้ห้อยอีก เพราะบางคนอาจจะถูกโฉลกกับโลหะชนิดหนึ่ง แต่ไม่ถูกกับพระเครื่องด้านเมตตามหานิยม เมื่อห้อยแล้วแทนที่จะส่งเสริม ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ในด้านไม่ดีแทน กรณีแบบนี้ขอแนะนำให้ลองมาตรวจโฉลกวัตถุมงคลก่อนดีกว่า เพื่อความสบายใจก่อนที่จะเช่าบูชาพระหรือเครื่องรางชนิดนั้นๆ มาไว้กับตัวเอง

อ่านเพิ่มเติม : ตรวจโฉลกวัตถุมงคลคืออะไร ทำไมถึงควรตรวจก่อนเช่าบูชาพระและเครื่องราง