สถานปฏิบัติธรรมใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่าย ไว้พักร่าง พักใจช่วงวันหยุด

สถานปฏิบัติธรรมใกล้กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง เดินทางอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร และติดต่อได้ช่องทางไหน หาคำตอบได้ที่นี่เลย
สถานที่ปฏิบัติธรรม

สถานปฏิบัติธรรม สำหรับคนที่ต้องการที่สำหรับสงบจิตสงบใจ หลังต้องทำศึกหนักกับเรื่องงานและชีวิตประจำวันมาอย่างยาวนานในปัจจุบันนี้มีให้เลือกเยอะมาก มีทั้งใน กทม และในจังหวัดใกล้ๆ กทม แบบที่เดินทางแค่ 1-2 ชั่วโมงก็ถึง หรือจะเดินทางโดยรถสาธารณะ เช่น รถไฟ รถตู้ข้ามจังหวัดก็สะดวก แถมยังมีให้เลือกแบบไปกลับ หรือค้าง 3 วัน 2 คืนอีกด้วย สะดวกที่ไหน สามารถติดต่อเพื่อขอรายละเอียดและของที่ต้องเตรียมไปได้เลย

รวมสถานปฏิบัติธรรมใน กทม. ที่ไม่ควรพลาด

ก่อนอื่น ขอเริ่มต้นจากสถานที่ปฏิบัติธรรมใน กทม. ก่อนเพราะเดินทางง่ายที่สุดแล้ว บางที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าเพียงต่อเดียวก็ถึงเลย

 

  1. วัดปทุมวนาราม

วัดปทุมฯ ตั้งอยู่ระหว่างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เพราะฉะนั้นสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสยาม แล้วเดินย้อนกลับมาที่วัดได้เลย ใครที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า สงบเงียบ ร่มรื่นจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใจกลางเมืองที่คนพลุกพล่านมากที่สุดจริงๆ จะเริ่มต้นจากการนั่งสมาธิคนเดียวในโบสถ์ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของทางวัด เช่น การเจริญจิตด้วยอิริยาบถ 3, การฟังธรรมเทศนา, การปฏิบัติธรรมแบบค้าง 

 

สำหรับผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมแบบค้างคืน จะต้องเตรียมของใช้ส่วนตัวมาเอง แต่ทางวัดมีห้องพัก ล็อกเกอร์เก็บของ เครื่องนอน อาหารเช้าให้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สามารถติดต่อลงทะเบียนได้ ที่นี่ (https://www.facebook.com/pathumwanaram)

 

  1. เสถียรธรรมสถาน

ไม่มีใครที่เป็นสายปฏิบัติธรรมแล้วไม่รู้จักที่นี่ ถึงแม้บางคนจะไม่เคยมาเลยก็ตาม เพราะที่นี่ก่อตั้งโดยแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แม่ชีที่อุทิศตนให้กับพุทธศาสนาตราบจนวาระสุดท้าย สถานที่แห่งนี้อาจจะอยู่ไกลหน่อย เพราะตั้งอยู่แถวๆ บางเขน-รามอินทรา แต่ปัจจุบันนี้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีวัดพระศรี แล้วต่อวินหรือแท็กซี่ไปอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว

 

กิจกรรมหลักๆ ของที่นี่คือการปฏิบัติธรรมแบบ 3 วัน 2 คืน (ศุกร์-อาทิตย์) โดยเน้นไปที่การทำสมาธิแบบอานาปานสติ หรือการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก นอกจากนี้จะมีการทำวัตรเช้า-เย็น เดินจงกรม ภาวนาต่างๆ เพื่อให้จิตใจสงบมากที่สุด พร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้นหลังจากนี้ ใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ (https://www.facebook.com/sdsface)

 

  1. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์

วัดมหาธาตุฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามหลวง ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์แบบไม่กี่ก้าว สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสนามไชยแล้วเดินต่อได้ หรือจะเรียกแท็กซี่มาเลยก็ได้เช่นกัน วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมานาน และค่อนข้างจะสงบเหมาะกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

 

ที่วัดนี้สามารถเดินทางไปปฏิบัติธรรมได้ทุกวัน มีทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ เริ่มตั้งแต่ 05.00 – 21.30 และแบบ 3 วัน 2 คืนที่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า (เต็มเร็วมากๆ) การปฏิบัติจะเน้นไปทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน ใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-222-6011 หรือกดที่นี่ (https://www.facebook.com/mahadhatsection5)

 

  1. วัดยานนาวา

วัดยานนาวาเป็นอีกวัดที่เดินทางง่าย และมีกิจกรรมให้ทำที่หลากหลายมากๆ สามารถเดินทางโดยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสะพานตากสิน แล้วเดินต่อไปที่วัดอีก 5 นาทีได้เลย หลักๆ จะเป็นการปฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์แบบไปเช้าเย็นกลับ เริ่มตั้งแต่ 13.00 – 19.00 น. ใครสนใจไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เตรียมชุดขาวให้พร้อมแล้วไปที่วัดได้เลย

 

นอกจากการปฏิบัติธรรมแล้ว ที่นี่ยังมีการฝึกจิต หรือเจริญสติอีกหลายแบบ เช่น การทำกสิณไฟ สอนเดินจงกรม เป็นต้น สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-672-3216 หรือกดที่นี่ (https://www.facebook.com/bhavanatoday)

 

  1. วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

วัดแห่งนี้เรียกอีกอย่างได้ว่า “วัดพิชัยญาติ” เคยได้รับรางวัลสถานปฏิบัติดีเด่นของ กทม. มาแล้ว วัดนี้จะเน้นไปทางการปฏิบัติแบบสมถกรรมฐาน โดยจะให้ผู้ฝึกใช้สติในการพิจารณาเพื่อให้รู้เท่าทันองค์ประกอบทั้ง 4 ได้แก่ จิต กาย เวทนา และสภาวะธรรม นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติธรรมแบบถือศีล 8 อีกด้วย

 

สำหรับวิธีการเดินทาง จะนั่งรถแท็กซี่มาเลยก็ได้ หรือจะนั่ง BTS สายสีทองมาลงสถานีคลองสาน แล้วต่อด้วยจักรยานยนต์รับจ้าง หรือแท็กซี่มาก็ได้ ใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-438-1738 หรือกดที่นี่ (https://www.facebook.com/phichaiyat)

รวมสถานที่ปฏิบัติธรรมใกล้ กทม. เดินทางแค่ 1-2 ชั่วโมง

ใครที่ลองไปสถานปฏิบัติธรรมในกรุงเทพแล้ว แต่อยากฝึกแบบเข้มงวด หรือจริงจังมากขึ้น ก็ขอแนะนำให้ลองไปตามสถานที่ต่อไปนี้เลย

 

  1. วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา

ไม่มีผู้ปฏิบัติธรรมคนไหนที่ไม่รู้จักวัดนี้อีกเช่นกัน ถึงแม้ว่าในอดีตจะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความดุร้ายของเหล่าวิญญาณที่ปกปักรักษาแผ่นดินอยู่ ถึงขั้นที่พูดกันว่าใครผ่านวัดนี้มาได้ถือว่าจิตแข็งมาก แต่เมื่อมีการปฏิบัติและแผ่บุญกุศลให้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เรื่องราวนี้ก็ค่อยๆ เลือนหายไป กลายเป็นเรื่องเล่ามาถึงปัจจุบันเฉยๆ

 

วัดนี้จะเน้นไปการวิปัสสนากัมมัฏฐานที่เป็นแบบคอร์ส 3 วัน 2 คืน หรือแบบ 7 วันเป็นหลัก และค่อนข้างมีระเบียบเข้มงวด ไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้เลย เพราะฉะนั้นจึงควรผ่านการฝึกมาก่อน แต่ถเาใครมั่นใจว่าจะหักดิบตัวเองจริงๆ ก็สามารถจองวันเวลาที่ต้องการได้ ที่นี่ (https://www.watmahaeyong.org)

 

สำหรับการเดินทาง ถ้าไม่มีรถส่วนตัว จะมีให้เลือกทั้งรถตู้จากหมอชิต และรถไฟจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วโบกรถตุ๊กตุ๊กหัวกบให้ไปส่งที่วัดต่อได้เลย

 

อ่านเพิ่มเติม วัดมเหยงคณ์ วัดอยุธยาโบราณกว่า 700 ปีที่ควรลองไปชมสักครั้ง

 

  1. วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดแห่งนี้จะมีชื่อเสียงหนักไปทางการเป็นตักศิลา หรือที่ฝึกสอนวิชาต่างๆ ให้กับนักรบโบราณเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆ ที่นี่ก็เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วยเช่นกัน มีครูสอนวิชากัมมัฏฐานตามแบบที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ และยังมีการเจริญสติด้วยวิธีอื่นๆ อีกมากมาย จะไปนั่งสมาธิแบบสงบๆ ในศาลาแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ หรือจะเลือกแบบเป็นคอร์ส 3 วัน 2 คืนก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องติดต่อทางวัดก่อนล่วงหน้าให้จัดเตรียมสถานที่ให้ เพราะที่นี่คนยังไม่ค่อยรู้จัก และยังไม่ได้รับความนิยม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกสมาธิแบบเงียบๆ โดยไม่เจอผู้อื่นเลย

 

สำหรับการเดินทางก็เช่นเดียวกับวัดมเหยงคณ์ คือนั่งรถตู้หรือรถไฟมาก็ได้ แล้วโบกรถตุ๊กตุ๊กหัวกบให้มาส่งที่วัดได้เลย ทั้งสองวัดนี้อยู่ห่างกันแค่คนละฝั่งถนนเท่านั้น

 

  1. วัดอัมพวัน จ.สิงหบุรี

วัดนี้เรียกอีกอย่างได้ว่า “วัดหลวงพ่อจรัญ” ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ถือได้ว่าเป็นพระนักพัฒนาและเป็นพระนักเทศน์เกี่ยวกับเรื่องของกฏแห่งกรรมที่มีลูกศิษย์นับถือมาก ที่วัดนี้มีการเปิดสอนการปฏิบัติธรรมแบบวิปัสสนากัมมัฏฐานด้วยการใช้หลักสติปัฏฐาน 4 และจะเน้นให้สวดบทพาหุงมหากา เพื่อใช้สำหรับเจริญสติในทุกๆ วัน

 

เห็นอยู่สิงห์บุรีแบบนี้ แต่เดินทางง่ายกว่าที่คิด เพราะสามารถนั่งรถตู้จากหมอชิตไปยังจังหวัดที่ผ่านวัดหลวงพ่อจรัญ แล้วแจ้งคนขับรถตู้ว่าลงที่วัดได้เลย เพราะตัววัดติดถนนใหญ่ เดินเข้าไปจากจุดที่รถตู้จอดเพียงนิดเดียวก็ถึงแล้ว

 

อ่านเพิ่มเติม : บทสวดมนต์พาหุงมหากาคืออะไร สวดแล้วได้อะไรบ้าง ?

 

  1. วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี

วัดสังฆทาน เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีหลวงพ่อโตที่เป็นศิลปะอู่ทองเดิมประดิษฐานอยู่ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นมีความศรัทธาในวัดนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ช่วงที่ถูกทิ้งร้างก็ยังมีชางบ้านมาสักการะหลวงพ่อ และนิมนต์พระจากวัดอื่นๆ มารับสังฆทาน จึงเป็นที่มาของชื่อวัดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งในช่วงปี 2517 หลวงพ่อสนอง กตปุญโญได้เข้ามาบูรณะวัดให้กลับมาเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษามาจนถึงปัจจุบันนี้

 

ที่วัดนี้จะเด่นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และการบวชเนกขัมมะที่สามารถเข้ามาบวชได้ทุกวันแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า สำหรับคนที่สนใจสามารถเดินทางได้โดยเรือด่วนเจ้าพระยา ลงสถานีพระราม 5 และต่อรถไปที่วัดได้เลย หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ที่นี่ (https://www.facebook.com/PrachasamphanthKhawsar)

 

  1. วัดปัญญานันทาราม จ.ปทุมธานี

ชื่อของวัดแห่งนี้มีความหมายว่าเป็นสถานที่ที่ทำให้มีปัญญา หรือเกิดปัญญา ตั้งตามชื่อของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่เป็นผู้ก่อตั้ง ถึงแม้ว่าวัดนี้จะเปิดให้เข้ามาปฏิบัติธรรมได้ตลอดทั้งปี แต่อาจจะต้องเช็กกับทางวัดก่อน เพราะส่วนใหญ่ทางวัดจะจัดให้มีการบวชหรือปฏิบัติธรรมแบบ 3 วัน 2 คืนเป็นรุ่น/สัปดาห์ รุ่นหนึ่งไม่เกิน 60 คน และสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้แค่ 45 วัน

 

การเดินทางอาจจะยากหน่อย เพราะวัดนี้อยู่แถวๆ คลองหก อาจจะต้องขับรถมาเอง หรือนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงคูคตแล้วค่อยต่อรถมาที่วัดอีกที หากใครต้องการสอบถามรายละเอียด กดที่นี่ (https://www.facebook.com/watpanyanantaram/)

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปสถานปฏิบัติธรรม ฉบับมือใหม่ที่ไม่เคยไปมาก่อน

สำหรับคนที่สนใจอยากลองไปสถานปฏิบัติธรรมดูสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง อาจจะเริ่มจากการลองไปนั่งสมาธิดูที่วัดก่อน หรือไปลองดูบรรยากาศรอบๆ แล้วลองสอบถามเจ้าหน้าที่ในวัดดูก็ได้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ส่วนมากจะเป็นขุดขาวตามเพศสภาพ (บางวัดมีให้) เครื่องนอน อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ยารักษาโรค บัตรประชาชน และจิตใจที่ดตรียมพร้อมและตั้งใจสำหรับเข้ารับการปฏิบัติธรรมตามเวลาที่กำหนด

 

ลองเริ่มจากวัดในกรุงเทพฯ หรือวัดที่ไม่เคร่งมากดูก่อน เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ง่ายแบบไม่ต่อต้าน หลังจากนั้นจะลองเพิ่มจำนวนวัน หรือลองไปฝึกในสถานที่ที่เคร่งมากขึ้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองมากเกิน เลือกสถานที่และการปฏิบัติที่พอดีและสบายใจกับตัวเอง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเจริญสติและเจริญปัญญาได้ตามจุดประสงค์ของสถานที่ปฏิบัติธรรมต่างๆ แล้ว

บทความแนะนำ

บทสวดอิติปิโส

รวมบทสวดมนต์ “อิติปิโส” ทุกแบบ ยิ่งสวดยิ่งดีกับดวงชะตา ทั้งเสริมทั้งป้องกัน!

บทสวดมนต์ อิติปิโส มีวิธีการสวดหลายแบบ รู้หรือไม่แต่ละแบบมีอานุภาพแตกต่างกันไป แบบไหนเป็นอย่างไร เลือกสวดแบบที่ต้องการได้เลย

อ่านต่อ »
จับพลังพระ

แชร์เทคนิคการจับพลังพระ สำหรับมือใหม่ที่อยากรู้ว่าพระตัวเองมีพลังจริงหรือไม่ ?

รู้จักวิธีการจับพลังพระ เพื่อตรวจสอบพลังงานของพระง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ แค่ทำสมาธินิ่งๆ ให้ได้ก็พอแล้ว

อ่านต่อ »
วัดกลางบางพระ

วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง จะขออะไรก็สมหวังได้ดั่งใจนึก

ใครหาที่มูอยู่ แนะนำหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม เดินทางง่าย มูก็ไม่ยาก ทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้เลย

อ่านต่อ »