ตรวจโฉลกวัตถุมงคล คืออะไร ทำไมถึงควรตรวจโฉลกพระก่อนเช่าบูชา?

ตรวจโฉลกวัตถุมงคล หรือตรวจโฉลกพระ ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำพาความสบายใจมาให้ผู้ที่ต้องการจะเช่าบูชาพระ แต่ไม่แน่ใจว่าเอามาแล้วจะเหมาะสมต่อตัวเราหรือไม่ เพราะพระบางองค์ก็มีราคาสูงจนเกินกำลังที่คนทั่วไปจะสามารถเช่าบูชาได้ ขณะที่พระบางองค์อาจได้รับการปลุกเสกด้วยพุทธคุณแบบหนึ่ง ซึ่งตัวเราเองอาจจะยังไม่ต้องการเสริมดวงในด้านนั้นๆ นอกจากนี้การตรวจโฉลกยังเหมาะสำหรับบางท่านที่กำลังหาพระที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่อีกด้วย

การ “ตรวจโฉลกวัตถุมงคล” คืออะไร ทำยังไงได้บ้าง?

อันที่จริงแล้วการตรวจโฉลกวัตถุมงคลนี้สามารถทำได้หลายรูปแบบ สำหรับเว็บไทยมูเตลูที่ทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จากผู้เชี่ยวชาญด้านตรวจโฉลกและจับกระแส (หากสนใจติดต่อได้ท้ายบทความ) ก็ได้ค้นพบว่า คนทั่วไปก็สามารถทดสอบโฉลกของตัวเองต่อวัตถุมงคลได้ เพียงแค่ตั้งจิตอธิษฐานให้มั่นต่อหน้าวัตถุมงคล หรือต่อรูปพระเครื่องที่จะบูชา จากนั้นให้อธิษฐานประมาณนี้ 

“ข้าพเจ้า ชื่อ … หากข้าพเจ้าเหมาะสมที่จะบูชาพระ / เครื่องราง … ก็ขอให้มีเงินทองเข้ามา หรือขอสิ่งอื่นๆ ที่ไม่เกินกำลังภายใน 3 วัน 7 วัน หากถึงเวลานั้นแล้วพระยังอยู่ ข้าพเจ้าก็จะขอนำพระมาบูชา”

แต่ถ้าหากว่าวัตถุมงคลนั้นค่อนข้างมีค่า และหายาก จะเช่าบูชามาก่อนแล้วค่อยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในด้านการตรวจโฉลกภายหลังก็ได้ เพราะถึงเวลานั้นหากไม่เข้ากันจริงๆ ก็ยังสามารถปล่อยพระให้ผู้เช่าบูชาในราคาทุนที่ได้มา หรืออาจจะบวกกำไรอีกนิดหน่อยได้อยู่นั่นเอง

ทริคไม่ลับ : จากการรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่ได้ทดลองตรวจโฉลกด้วยตัวเอง พบว่าหากสวดคาถาหรืออธิษฐานระลึกถึงครูบาอาจารย์ พระเกจิผู้ปลุกเสกวัตถุมงคลของสายนั้นๆ ด้วย จะช่วยให้คำอธิษฐานมีกำลังมากขึ้น ทำให้เห็นผลเร็วและชัดเจน

จะรู้ได้ยังไงว่าพระที่มีอยู่ เข้ากับเราหรือเปล่าโดยไม่ต้อง “ตรวจโฉลกวัตถุมงคล”

คำถามข้อนี้สามารถตอบได้ 2 กรณี
กรณีที่ 1 : กรณีที่วัตถุมงคลถูกโฉลกต่อผู้บูชา เมื่อนำไปห้อยแล้วทำให้ดวงดีขึ้น เช่น จากที่ไม่เคยถูกหวยเลย แต่พอได้มาแล้วก็ถูกหวยบ้าง หรือถูกหวยบ่อยขึ้น หรือจากที่ขายของไม่ดี ห้อยพระองค์นี้แล้วก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เป็นต้น

กรณีที่ 2 : กรณีที่วัตถุมงคลไม่ถูกโฉลกต่อผู้บูชา เริ่มต้นได้ตั้งแต่ที่ห้อยมาเลย ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม แต่ก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ  หรือพึ่งจะเริ่มห้อยได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องที่เป็นลางไม่ดีอยู่เรื่อยๆ

หากพบประสบการณ์แบบในกรณีที่ 2 หรือพบเจอเหตุการณ์อื่นๆ นอกจากนี้ รวมถึงต้องการความมั่นใจในวัตถุมงคลที่เช่าบูชามา ก็ขอแนะนำให้ลองตรวจโฉลกวัตถุมงคลก่อน เพราะการพบเจอประสบการณ์แบบนี้อาจจะไม่ได้แปลว่าไม่เข้ากันอย่างเดียว แต่อาจจะต้องบูชาด้วยอะไรบางอย่าง หรืออาจจะต้องมีการปรับจูนพลังงานกันก่อน

อย่างประสบการณ์ของผู้เขียนเองจะรู้สึกมึนศีรษะ และร้อนวูบวาบทุกครั้งที่ห้อยพระหลวงปู่ทวด หรือพระเครื่องที่มีการปลุกเสกแรงๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะห้อยไม่ได้ หลังจากที่ตรวจโฉลกวัตถุมงคลรวมทั้งขอคำแนะนำจากผู้ตรวจก็พบว่า ต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะจูนคลื่นกับวัตถุมงคลติด ระหว่างนี้ก็อาจจะต้องสวดมนต์บางบทเพื่อจูนพลังงานให้เร็วขึ้นด้วย

ไม่ใช่แค่เฉพาะพระเครื่องเท่านั้นที่ควรนำมาตรวจโฉลก พวกเครื่องรางต่างๆ ก็เช่นกัน เพราะเครื่องรางแต่ละชนิดก็มีพุทธคุณที่แตกต่างกันไป และไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับพุทธคุณหรือเครื่องรางชิ้นนั้นๆ

อ่านเพิ่มเติม : ทนสิทธิ์ คืออะไร ? ทำไมเราถึงควรมีเครื่องรางชนิดนี้ติดตัว?

จะหาคนตรวจโฉลกวัตถุมงคลได้ที่ไหนบ้าง และจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจริงหรือเปล่า?

ปัจจุบันนี้มีหมอดูหลายศาสตร์ หลายสำนักที่สามารถรับตรวจโฉลกวัตถุมงคลได้ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันไป อย่างของเว็บไซต์ไทยมูเตลูที่รับตรวจโฉลกนี้ จะมีการรีเช็กเพื่อให้ความมั่นใจเบื้องต้นกับผู้ที่มาติดต่อขอตรวจวัตถุมงคล และเพื่อให้ตัวผู้ตรวจเองรู้สึกมั่นใจว่าได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยยกตัวอย่างเช่น การตรวจสอบว่ารอบข้างของคนที่ตรวจมีสิ่งของเหล่านี้มั้ย การเช็คเลขธนบัตร และยังมีอีกหลายๆวิธีนอกจากที่กล่าวมา ฯลฯ

ภาพตัวอย่างการตรวจสอบโฉลกวัตถุมงคล ของผู้ตรวจจากเว็บไซต์ไทยมูเตลู

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจตรวจโฉลกวัตถุมงคล คือ การตรวจโฉลกนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพระจริง/พระปลอม และไม่สามารถบอกได้ว่าการปลุกเสกหรือมวลสารในพระประกอบด้วยอะไรบ้าง เป็นเพียงการตรวจโฉลกระหว่างพระ หรือวัตถุมงคลกับผู้ที่เช่าบูชาเพียงเท่านั้น

เคสตัวอย่างการ “ตรวจโฉลกวัตถุมงคล” และตรวจโฉลกพระ

เคสที่ 1

คุณสมชาย (นามสมมติ) ได้เช่าบูชาวัตถุมงคลมาชิ้นหนึ่ง โดยได้รับคำแนะนำและแรงเชียร์จากผู้ขายว่าของที่ได้ไปเป็นของดีและของแท้แน่นอน ได้ไปแล้วให้เลิกห้อยวัตถุมงคลอื่นๆ ได้เลย ปรากฎว่าหลังคุณสมชายได้วัตถุมงคลมา ก็เจอแต่เรื่องประหลาดมาตลอด จนรู้สึกกังวลและไม่สบายใจ ก็เลยกลับไปถามผู้ขายว่าเกิดจากอะไร ซึ่งผู้ขายคนดังกล่าวได้บอกว่า เป็นเพราะพระที่คุณสมชายเคยห้อย ไม่ใช่พระที่มาจากร้านผู้ขายเลยเป็นแบบนี้

คุณสมชายเมื่อได้ฟังแล้วก็ยิ่งไม่สบายใจ ก็เลยพยายามปรึกษาผู้รู้ รวมถึงการมาตรวจโฉลก ก็พบว่าวัตถุมงคลที่ได้มาใหม่ นอกจากจะไม่ได้มีพุทธคุณด้านเมตตาตามที่ได้รับคำแนะนำแล้ว ยังให้ผลไปในทางตรงข้าม จนทำให้คนรอบตัว รวมถึงกัลยาณมิตรดีๆ ของคุณสมชายหายไปด้วย คุณสมชายก็รับว่าจริง และได้ทำตามคำแนะนำคือให้เอาวัตถุมงคลไปคืน หลังจากนั้นไม่นานชีวิตคุณสมชายก็ค่อยๆ กลับมาสงบเหมือนเดิม เพื่อนหรือคนรอบตัวที่หายไปก็ค่อยๆ กลับมา 

เคสที่ 2

คุณมงคล (นามสมมติ) นำกุมารทองมาตรวจโฉลกวัตถุมงคล เพราะรู้สึกว่ามูไม่ค่อยขึ้น และรู้สึกว่าน้องๆ ไม่ค่อยช่วยเหลือเท่าที่ควร จากการตรวจก็พบว่าคุณมงคลเคยบนบานกับน้องกุมารทองไว้ ว่าจะให้ของเล่นเมื่อทำการนั้นๆ สำเร็จ แต่ไม่ได้ทำตามที่พูดเพราะลืม น้องกุมารก็เลยงอนแล้วก็แสดงอิทธิฤทธิ์เป็นที่น่าปวดหัว จนต้องมีการพูดคุยตกลงกันใหม่ หลังจากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นมาโดยตลอด

เรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและก่อนการตัดสินใจใดๆ อย่างระมัดระวัง

หากใครสนใจตรวจโฉลกวัตถุมงคล กดจิ้มที่ชื่อผู้ตรวจของเราเพื่อขอคำแนะนำ หรือสอบถามรายละเอียดก่อนได้เลย

ปัจจัตตังแมน / มิโกะ