วิธีเลี้ยงผงพรายกุมาร พระขุนแผนหลวงปู่ทิม

วิธีเลี้ยงผงพรายกุมาร ไม่ว่าจะเป็นพระขุนแผนหลวงปู่ทิม พระขุนแผนหลวงปู่สาคร หรือแม้กระทั่งพระเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่มีผงนี้ผสมอยู่ ล้วนมีวิธีที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผู้ที่บูชาจำเป็นจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการสร้างพระเครื่องชนิดนี้ และธรรมชาติของพรายก่อน จึงจะสามารถเลี้ยงหรือบูชาได้อย่างถูกต้อง ก่อนที่จะถูก “พรายกินตัว” ที่อาจส่งผลรุนแรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

รู้จักพระขุนแผนหลวงปู่ทิม ก่อนศึกษาวิธีเลี้ยงผงพรายกุมาร

ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีเลี้ยงผงพรายกุมารนั้น อยากให้ทุกได้อ่านประวัติพระขุนแผนหลวงปู่ทิม รุ่นที่มีมวลสารผงพรายกุมารผสมอยู่ด้วยเสียก่อน เนื่องจากปัจจุบันนี้พระเครื่องรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีราคาที่ค่อนข้างแรง จึงทำให้มีทั้งของแท้-ของปลอมปะปนกันอยู่ในตลาด บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเช่ามาได้ในราคาไม่แพงมาก แต่ได้ของปลอมที่มีทั้งพราย (ที่ถูกสะกดไม่ดี) และอาจจะยังมีภูติผีอื่นๆ ตามมาอีก บอกเลยว่าใครเจอแบบนี้เข้าไปโดยที่ไม่รู้ตัว หรือไม่รู้วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง ชีวิตจะยิ่งกว่าต้องธรณีสารแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม : การต้องธรณีสารคืออะไร มีวิธีการแก้ไขยังไงได้บ้าง

การสร้างพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนั้น เกิดขึ้นในปี 2515-2517 เมื่อคณะกรรมการวัดละหารไร่ ได้มีความคิดจะสร้างพระเครื่องเพื่อแจกชาวบ้านและลูกศิษย์ สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคเงินเพื่อสร้างและบำรุงวัด ได้มีการบันทึกไว้ว่าหลวงปู่ทิม ได้แนะนำให้นำผงพรายกุมารมหาภูติมาใส่ลงไปในพระเครื่องด้วย เพื่อห้พระเครื่องมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ซึ่งก็ได้มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งชื่อ “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ” เป็นผู้ไปนำ “กระโหลกพรายกุมาร” ที่ได้จากหญิงตายทั้งกลมมาปลุกเสก ซึ่งก็มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าหมอกุหลาบต้องเจออิทธิฤทธิ์ความเฮี้ยนมากมายกว่าจะได้วัตถุอาถรรพ์นี้มาให้หลวงปู่ แต่เมื่อเจ้าของ ตัวกุมาร และนายป่าช้าได้รับรู้ว่าเป็นการนำไปใช้เพื่อการสร้างและบำรุงพระพุทธศาสนา ทุกอย่างก็ราบรื่นสงบดี และเชื่อกันว่าวิญญาณเหล่านี้ก็ยังวนเวียนคุ้มครองอยู่ที่วัดละหารไร่นั่นเอง

แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีสื่อมวลชนได้ไปสัมภาษณ์หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ผู้เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ทิมโดยตรง หลวงพ่อสาครได้เมตตาตอบกับสื่อมวลชนว่า จริงๆ แล้วหลวงปู่ทิมไม่ได้เสนอให้ใช้ผงพรายกุมารตามที่มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา เป็นเพียงความคิดของลูกศิษย์เท่านั้น ซึ่งหลวงปู่ทิมแค่ตอบว่า “ถ้าหามาให้ก็ทำได้” เหล่าลูกศิษย์จึงไปตามหาของสิ่งนี้มา และสิ่งที่เอามาเป็นเพียงแค่ลิ้นกับเส้นผมเท่านั้น ไม่ใช่หัวกระโหลกอย่างที่เล่าต่อๆ กันมา

หลวงพ่อสาครได้เมตตาย้ำอีกครั้งว่า อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับผีล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งนั้น เพราะถ้าหากไม่สามารถบังคับหรือควบคุมได้ ผู้ที่บูชาหรือผู้ที่ใช้งานนี้ก็จะเป็นอันตราย อย่างพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมถือว่าท่านเสกมาดี บังคับมาดี ผู้ใช้จึงสามารถใช้งานได้

ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน : ถึงแม้จะเสกมาดี แต่เชื่อได้ว่าหากผู้ครอบครองหรือผู้ใช้งานไม่ได้รักษาศีล หรือทำผิดกฎใดๆ บางข้อ ก็อาจจะถูก “ผีเอาคืน” ได้เช่นกัน จะโดนมากโดนน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าไปทำอะไรมา

อ่านเพิ่มเติม : เมื่อหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พูดถึงพระขุนแผนหลวงปู่ทิม

วิธีเลี้ยงผงพรายกุมาร ให้มีพุทธคุณเข้มขลัง เหมือนเสกออกมาใหม่ๆ

ในส่วนนี้ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า พระผงทุกชนิดของหลวงปู่ทิม เป็นที่เชื่อกันว่าศักสิทธิ์ตั้งแต่เริ่มต้นผสมมวลสารแล้ว ไม่ว่าจะทำแตก หัก บิ่นยังไง ก็ยังศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมก็คือขอให้ผู้บูชาอยู่ในศีล ในธรรมก็เพียงพอแล้ว

สำหรับพุทธคุณของพระเครื่องชนิดนี้ จะโดดเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม ถึงขนาดที่ว่าคนโสดที่ห้อยพระนี้ได้ไม่นานก็จะมีคู่ นอกจากนั้นก็ยังมีโชคลาภมหาศาลอีก ใครที่ทำธุรกิจแล้วมีพระเครื่ององค์นี้ไว้ในครอบครอง ก็จะมีเงินไหลมาเทมา ติดต่องานกับใครก็สำเร็จสมดังใจหมายทุกอย่าง

แต่อย่าลืมว่า พราย ก็คือผีชนิดหนึ่ง การห้อยพระเครื่องรุ่นนี้ก็เปรียบเทียบได้กับการเลี้ยงผี ถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการทุกอย่าง แต่ก็มีสิ่งที่เราต้องเสียเพื่อแลกเปลี่ยนเช่นกัน ซึ่งคนส่วนมากไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็โดนพรายกินตัวไปแล้ว

วิธีเลี้ยงผงพรายกุมารแบบละเอียด ที่คนอยากลองต้องรู้ไว้

ไม่ใช่แค่พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเท่านั้น พระใดๆ ก็ตามที่มีพรายก็ควรจะมีการเลี้ยงแบบนี้เช่นกัน อาจจะแตกต่างกันไปที่ของเซ่นไหว้สังเวย หรือบทสวดเพื่อบูชาเพียงอย่างเดียว

เราจึงขอแนะนำวิธีเลี้ยงผงพรายกุมารแบบละเอียดที่สุด ดังต่อไปนี้

1. เซ่นสังเวยด้วยอาหารอย่างน้อย 3-7 วัน แนะนำให้เป็นอาการจากธรรมชาติเท่านั้น เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ หรือเหล้า (อาจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางวัดหรือมัคทายกก่อนได้ ว่าควรสังเวยด้วยอะไร)
2. เพิ่มพลังให้พราย ด้วยปราณของผู้บูชาก่อนทุกครั้ง ด้วยการสูดหายใจลึกๆ แล้วกลั้นไว้ ระหว่างนั้นให้ตั้งใจอธิษฐานว่าขอแบ่งลมหายใจนี้ให้กับพรายที่นำมา แล้วพ่นลมหายใจใส่ลงไปที่พราย เพื่อเป็นการจูนและเพื่อให้พรายรับรู้ว่าใครเป็นเจ้าของ
3. สวดมนต์เพื่อเสริมพลังให้พรายเป็นประจำสม่ำเสมอ ด้วยบทบูชาของหลวงพ่อหรือวัดนั้นๆ หากไม่มีให้ใช้คาถาของหลวงปู่ทิม, หลวงพ่อกวย, สมเด็จโตวัดระฆัง หรือคาถาขุนแผนก็ได้
4. ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พรายทุกครั้ง โดยในระหว่างที่ทำบุญนั้นต้องทำจิตใจให้ผ่องใสจนรู้สึกถึงความปิติหรืออิ่มใจ แล้วให้ส่งพลังความรู้สึกปิตินี้ไปให้พรายที่เลี้ยง จะส่งโดยนึกคิดเป็นลูกไฟ ดวงแก้ว อาวุธ เครื่องแต่งกาย อาหารก็ได้ และให้อธิษฐานให้พวกเขานำไปใช้ต่อเพื่อช่วยเหลือคุณตามความต้องการ

จะทำยังไงถ้าไม่รู้วิธีเลี้ยงผงพรายกุมาร จนพรายกินตัวไปแล้ว

เป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ถ้าหากคิดจะบูชาพระพราย หรืออะไรก็ตามที่มีพรายอยู่ จะต้องมีการเซ่นสังเวยกันก่อนเพื่อป้องกันพรายกินตัว และไม่ควรใส่พระพรายติดต่อกันเกิน 1 เดือน ควรมีการถอดพระออกจากตัวบ้าง เพื่อให้มีการปรับจูนธาตุ หรือฟื้นพลังกันใหม่

อย่างหนึ่งที่ควรรู้ก่อนเข้าวงการนี้ คือการที่ “พรายกินตัว” นั้น เป็นเรื่องปกติ ทุกคนต้องได้เจอเหมือนกันหมด เพราะจริงๆ มันเป็นเรื่องของการจูนหรือเชื่อมต่อระหว่างพรายกับผู้เลี้ยงเข้าด้วยกัน บางคนแขวนแล้วก็อาจจะหน้ามืด หมดแรง เป็นไข้ แต่จะกลับเป็นปกติไม่นาน ยิ่งถ้าหากเซ่นสังเวยดีๆ ก็แทบจะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นอีกเลย

ส่วนคนที่ไม่เคยเซ่นสังเวยเพราะเลี้ยงไม่เป็น หรือขี้เกียจ ก็จะมีอาการผิดปกติที่เริ่มจากการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทเพราะถูกผีอำบ้าง ถูกผีรบกวนบ้าง นานๆ ไปก็ทำให้หมดความรื่นรมย์และความแจ่มใสเพราะนอนไม่พอ บางคนก็มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดโกรธง่าย จนส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง และถ้าหากยังไม่รู้จักวิธีแก้ คราวนี้พรายจะเริ่มเข้าไปสิงในร่างกาย และค่อยๆ ยึดร่างกายจนท้ายที่สุดก็เหมือนคนตายทั้งเป็น รอเวลาที่จะหมดลมหายใจไปวันๆ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความนี้ และถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดประการใด เว็บไซต์ไทยมูเตลูขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว