ปล่อยปลาหน้าเขียง ทำแล้วดีจริงหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบให้!

ในช่วงระยะหลังมานี้ หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “ปล่อยปลาหน้าเขียง” กันอยู่บ่อยๆ ยิ่งถ้าใครเป็นสายมูและชอบดูดวง ต้องเคยผ่านการทำบุญด้วยวิธีนี้กันอย่างแน่นอน เราจึงได้รวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการทำบุญปล่อยปลานี้ว่าเป็นมายังไง ทำแล้วดีจริงๆ หรือไม่ และควรปล่อยปลาอะไรยังไงดี ถึงจะได้อานิสงส์มากที่สุด

ปล่อยปลาหน้าเขียงคืออะไร เหมือนปล่อยปลาที่อยู่ในกาละมังหรือไม่?

คำว่า “ปลาหน้าเขียง” มีความหมายตรงตัวเลยว่า เป็นปลาสดที่อยู่ในแผงปลาต่างๆ พร้อมโดนเชือดหรือทุบหัวสำหรับทำอาหารได้ทุกเมื่อที่มีการซื้อ-ขาย พูดง่ายๆ ว่าเป็นปลาที่แทบจะไม่มีโอกาสรอดแล้ว ถ้าไม่ได้มีคนใจบุญมาพบแล้วขอซื้อเพื่อเอาไปปล่อยจริงๆ

ถ้าหากจะเปรียบเทียบ การปล่อยปลาหน้าเขียงมีอานิสงส์แทบจะเทียบเท่ากับการไถ่ชีวิตโคกระบือที่กำลังจะเข้าโรงเชือดได้เลย เพียงแต่มีขนาดที่เล็กลง มีราคาที่ไม่เกินกำลังสำหรับคนทั่วไป และสามารถพบเจอได้ง่ายกว่า เดินเข้าตลาดหาตามแผงปลาสดได้เลย เพราะฉะนั้นจึงแตกต่างแบบเห็นได้ชัดกับการซื้อปลาที่อยู่ในกาละมังที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนจับไปปล่อยโดยเฉพาะ ปลาแบบนั้นไม่ได้จะถูกฆ่านำมาทำอาหารอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีคนซื้อก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ

หมายเหตุ : ไม่ได้หมายความว่าการปล่อยปลาในกาละมังเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพียงแต่ต้องการระบุให้แน่ชัดว่าแบบไหนคือปลาหน้าเขียงกันแน่

อานิสงส์ของการปล่อยปลาหน้าเขียง มีอะไรบ้าง?

เชื่อกันว่า การช่วยชีวิตสัตว์ให้รอดพ้นจากการถูกฆ่า อย่างเช่นการปล่อยปลาหน้าเขียงนั้น ไม่ว่าจะเพื่ออะไรก็ตามย่อมเป็นบุญใหญ่ที่สามารถต่อชีวิตของเราไปได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าป่วยอยู่ก็ยังมีโอกาสหาย ส่วนที่ไม่ได้ป่วยก็จะแข็งแรง ไม่เป็นโรคร้ายอะไรเลย นอกจากนี้ยังเป็นที่รักของเทวดา และบุคคลทั้งหลาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ได้รับความช่วยเหลืออีกด้วย จริงๆ อาจจะมีมากกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ทำมาของแต่ละบุคคลด้วย

ปล่อยปลาหน้าเขียงแบบไหนดี ต้องทำกี่ตัวถึงจะเหมาะสม

ต้องบอกก่อนเลยว่า อันที่จริงแล้วไม่ว่าจะปล่อยปลาหน้าเขียงพันธุ์ไหน ล้วนเป็นเรื่องที่ดีและได้บุญกุศลใหญ่เท่ากันหมด เพียงแต่บางคนอาจจะมีความเชื่อหรือถือเคล็ดบางอย่าง เกี่ยวกับชื่อของปลา ว่าปล่อยปลาอะไรจะได้รับผลแบบไหน เราได้สรุปมาเบื้องต้น ดังนี้

• ปลาไหล : ชีวิตและเงินทองไหลลื่น ราบรื่น ไม่มีเรื่องติดขัดใด 
• ปลาช่อน : จะได้พบกับโชคลาภที่ซ่อนเอาไว้อยู่ (เพราะมีการออกเสียงคล้าย ซ่อน)
• ปลาหมอ : สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย โรคร้ายที่เป็นอยู่ก็หายไป
• ปลาดุก : มีชัยชนะเหนือศัตรูทุกรูปแบบ เพราะปลาดุกจะมีเงี่ยงเป็นอาวุธป้องกันตัว
• ปลานิล : ทรัพย์สินเงินทองเข้ามาไม่ขาด
• ปลาสวาย : ความคล่องตัวทั้งในเรื่องชีวิดและทรัพย์สิน
• หอยขม : จากนี้ชีวิตจะไม่ขมขื่น และขื่นขมอีก

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของจำนวนปลาเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ถ้าหากว่าไม่ได้ติดขัดเรื่องเงิน ก็สามารถทำตามกำลังวันเกิด กำลังวันที่ปล่อย หรือตามเลขมงคลที่ต้องการก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากขนาดนั้น ปล่อยเพียง 1-2 ตัวก็เพียงพอแล้ว

• วันอาทิตย์ กำลังวัน 6
• วันจันทร์ กำลังวัน 18
• วันอังคาร กำลังวัน 8
• วันพุธกลางวัน กำลังวัน 17
• วันพุธกลางคืน กำลังวัน 12
• วันพฤหัสบดี กำลังวัน 19
• วันศุกร์ กำลังวัน 21
• วันเสาร์ กำลังวัน 10

ถ้าเลือกปล่อยปลาหน้าเขียงเป็นปลาดุก ต้องเลิกกินปลาดุกด้วยมั้ย?

เรื่องนี้ก็ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอีกเช่นกัน บางคนเลือกปล่อยปลาที่ตัวเองไม่กินเลยเพื่อความสบายใจ ขณะที่บางคนอาจจะอยากปล่อยปลาที่มีชื่อเป็นมงคล เข้ากับสถานการณ์ตัวเอง แต่ก็ไม่อยากจะต้องเลิกกินไปเลย จริงๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแม้แต่นิดเดียว เพราะต่อให้เราเลิกกินปลานี้ แต่กินปลาอื่น ก็ยังถือเป็นการฆ่าสัตว์อยู่ดี 

ต้องปล่อยปลาหน้าเขียงที่ไหน ถึงจะไม่มีปัญหาตามมา

ระยะหลังๆ นี้เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องการปล่อยปลาผิดที่ผิดทาง ทำให้กลายเป็นภัยต่อระบบนิเวศบ้าง หรืออาจจะยิ่งเป็นบาปกว่าเดิมบ้าง เพราะสุดท้ายก็ถูกชาวบ้านจับกินอยู่ดี เพราะฉะนั้นเอาที่ง่ายที่สุดเลยคือปล่อยตรงจุดอภัยทานตามเขตต่างๆ ของวัด และถ้าให้ชัวร์อาจจะลองถามก่อนว่าแถวนั้นมีปลาอะไรบ้าง จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องปล่อยไปแล้วปลาของเราจะขิตเพราะถูกเจ้าถิ่นรุมกิน

หลังปล่อยปลาหน้าเขียงแล้ว อย่าลืมกรวดน้ำอุทิศบุญให้บิดามารดา เจ้ากรรมนายเวร เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองเราเสียหน่อย เพื่อสะสมไว้เป็นเสบียงบุญ และเผื่อเอาไว้ขอพรเล็กๆ น้อยๆ ยามฉุกเฉินได้

อ่านเพิ่มเติม : กรวดน้ำคืออะไร ไม่มีน้ำกรวดได้มั้ย ต้องทำยังไงบ้าง?