ทนสิทธิ์ คืออะไร ? ทำไมเราถึงควรมีเครื่องรางชนิดนี้ติดตัว ?

ทนสิทธิ์ อาจจะเป็นคำที่คนไม่ค่อยคุ้นเคยมากเท่าไรนัก เพราะคำนี้เป็นคำที่มักจะใช้พูดถึงในวงการเครื่องรางหรือวัตถุมงคลมากกว่า และน้อยคนจริงๆ ที่จะเข้าใจว่าคำนี้หมายความว่าอะไร มีเครื่องรางอะไรที่อยู่ในหมวดหมู่นี่้บ้าง เราจึงได้รวบรวมและสรุปมาให้อ่านกันในบทความนี้

ทนสิทธิ์ มีความหมายว่าอะไรกันแน่ ?

หากจะแปลคำว่า “ทนสิทธิ์” ออกมาตรงตัว ก็จะได้ความหมายประมาณว่า เป็นความสำเร็จที่เกิดมาจากความอดทน แต่ถ้าหากจะให้ตีความหมายไปในเชิงเครื่องรางของขลัง คำนี้จะหมายถึงของที่มีฤทธิ์คงกระพันชาตรี ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ รวมถึงภูตผีและคุณไสยได้ด้วย

สรุปว่า “ทนสิทธิ์” คืออะไร?

ก่อนจะตอบคำถามเรื่องทนสิทธิ์ ต้องอธิบายก่อนว่า ในโลกใบนี้มีพลังอย่างหนึ่งของจักรวาล ที่เราสามารถหยิบยืมหรือขอแบ่งปันมาใช้ได้ เรียกกันว่า “ปราณ” ซึ่งปราณนี้เองที่ทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมายอันเกิดจากพลังงานที่ถ่ายเทกันไปมาก ส่วนตัวทนสิทธิ์นี้ จะเปรียบได้กับก้อนแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บพลังงานนี้ได้ จนทำให้มีฤทธิ์มีเดชในตัวเองแตกต่างกันไป 

ส่วนมากแล้วของทนสิทธิ์ มักจะเป็นของที่ได้จากธรรมชาติ เพียงแต่เป็นของธรรมชาติที่อาจจะหายากกว่าปกติสักหน่อย ของใดๆ ก็ตามที่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ จะเป็นของที่มีฤทธิ์ในตัวเอง แค่พกพาไว้ก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกคาถาอาคมใดๆ ทั้งสิ้น 

ตัวอย่างของทนสิทธิ์ ที่ได้จากสัตว์

• เขี้ยวเสื้อกลวง : ตามปกติแล้วเขี้ยวเสือจะตันไปทั้งซี่ แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เจอเขี้ยวเสือกลวงตั้งแต่ส่วนต้นไปจนถึงส่วนปลาย จะกลายเป็นเครื่องรางที่มีฤทธิ์ด้านมหาอุดที่ใครก็ยิงไม่เข้า ฟันก็ไม่เป็นไร
• เขี้ยวหมูป่าตัน : ในทางกลับกัน เขี้ยวหมูป่าส่วนใหญ่จะกลวงอย่างน้อยครึ่งนึง ถ้าเจอตันทั้งซี่เมื่อไร ก็มีคุณสมบัติเป็นมหาอุดไม่ต่างกับเขี้ยวเสือกลวงเลย
• ช้องหมูป่า : อีกสิ่งหนึ่งของหมูป่า ที่กลายมาเป็นของวิเศษด้านมหาอุดได้ไม่แพ้กัน คือช้อง หรือขนบริเวณหัว / หว่างคิ้วที่มีลักษณะยาวเป็นพิเศษและพันเป็นก้อน ส่วนมากหมูป่ามักจะอมขนนี้ไว้ในปาก หรือพันไว้ที่เขี้ยวของตัวเอง
• งากำจัด : งานี้เป็นของช้างตกมัน หรือช้างที่มีนิสัยพาล ชอบอาละวาดแล้วเอางาไปแทงต้นไม้จนหัก งาแบบนี้นอกจากช่วยด้านมหาอุดแล้ว ยังช่วยล้างอาถรรพ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ครอบครองอีกด้วย
• เขากวางคุด : ปกติกวางจะมีเขางอกขึ้นยาวๆ สองข้าง แต่เขากวางคุดนี้จะขึ้นบริเวณหน้าผาก คล้ายนอแรด และจะขึ้นเป็นตะปุ่มตะป่ำหรือที่เรียกกันว่ายอด ถ้าหากว่ามี 9 ยอดจะถือว่าเป็นทนสิทธิ์ชั้นดี แต่ถ้าเจอแบบ 12 ยอดจะถือว่าเป็นชั้นเยี่ยมที่เป็นได้ทั้งมหาอุด เสริมบารมี เสริมวาสนาแบบครอบจักรวาล
• เดือยงูเหลือม : เดือยนี้จะได้จากงูเหลือมเพศผู้ที่มีอายุมากแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นของหายากอีกชิ้นหนึ่งที่คนพากันตามหา เพราะเชื่อกันว่าใครได้ครอบครองจะนำพามาแต่โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เล่นการพนันก็ชนะ แถมยังเป็นเมตตามหานิยมอีกด้วย

ตัวอย่างของทนสิทธิ์ ที่ได้จากไม้ หรือต้นไม้

• กาฝาก : กาฝากแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป อย่างกาฝากรัก หรือกาฝากบนต้นรัก ก็จะดีในด้านเสน่ห์ ถ้าเป็นกาฝากมะขาม ก็จะเต็มไปด้วยบารมีให้คนเกรงขาม เป็นต้น
• กะลาตาเดียว : ปกติแล้วกะลาทั่วๆ ไปจะมีสองตา แต่ถ้าหากเจอตาเดียว หรือไม่มีตาเลย ก็จะกลายเป็นทนสิทธิ์ด้านมหาอุดที่พกไว้ป้องกันภัยต่างๆ ได้ และยังช่วยเสริมดวงอีกด้วย ส่วนมากนิยมนำมาแกะเป็นรูปต่างๆ เพื่อเพิ่มฤทธิ์แล้วห้อยคอ เช่น ราหู หรือสิงห์
• ต้นงิ้วดำ : ต้นพญางิ้วดำนี้ ถือเป็นต้นไม้วิเศษที่อยู่ในป่าลึกมากๆ และมีเทวดารักษาไว้อยู่ เชื่อกันว่าร้อยปีจะมีขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากจะนำมาทำเครื่องรางต้องใช้ต้นที่ยืนตายพรายทิ้งไว้เท่านั้น สามารถใช้ป้องกันคุณไสยและมนต์ดำได้ดี

ตัวอย่างของทนสิทธิ์ ที่ได้จากเหล็กหรือโลหะ

• เหล็กไหล : มีด้วยกันหลายประเภท เช่น เหล็กไหล 7 สี เหล็กไหลพระสีวลี หรือพญาเต่าเรือน และเหล็กไหลทั่วไป เชื่อกันว่าโลหะชนิดนี้มีจิตวิญญาณ สามารถเป็นทั้งของแข็งและของเหลวได้ มีฤทธิ์เป็นมหาอุด ป้องกันอาวุธได้ทุกอย่าง ดับพิษต่างๆ ได้ มีสรรพคุณครอบจักรวาล แต่ต้องคนที่มีบุญบารมีดีเท่านั้นถึงจะครอบครองได้
• เหล็กน้ำพี้ : มีสรรพคุณครอบจักรวาลเช่นกัน เป็นมหาอุดได้ ทำลายอาถรรพ์ กันภูติผีปีศาจได้ กันมนต์ดำได้ ปัจจุบันนิยมนำมาหล่อวัตถุมงคลสำหรับพกพา แต่สมัยก่อนจะนิยมนำไปตีเป็นดาบ
  

ตัวอย่างของทนสิทธิ์ ที่ได้จากหิน หรือแร่ธาตุ

• ข้าวตอกพระร่วง : เชื่อกันว่าเป็นข้าวก้นบาตรของพระร่วงที่ได้อธิษฐานให้กลายเป็นหินมงคลที่ใครครอบครอง จะร่ำรวยเงินทอง ค้าขายรุ่งเรือง และป้องกันคุณไสยได้ด้วย
• แก้วขนเหล็ก : เป็นแร่ธาตุสีใสที่มีเส้นสีดำหรือน้ำตาลเข้มเหมือนเข็มใหญ่ๆ แทงสวนกันไปมา เชื่อกันว่าช่วยป้องกันคุณไสย และกันผีได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างทนสิทธิ์ที่รู้จักกันดี แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายอย่างที่จัดอยู่ในเครื่องรางประเภทนี้แบบที่เขียนเท่าไรก็ไม่มีวันหมด สำหรับคนที่สนใจเครื่องรางเหล่านี้ โปรดระมัดระวังของปลอมที่ทำเลียนแบบขึ้นมา นอกจากการสอบถามผู้รู้เพื่อตรวจเช็กว่าเป็นของจริงหรือไม่แล้ว ควรตรวจสอบโฉลกด้วย เพราะเครื่องรางบางอย่างเป็นคนเลือกเจ้าของ และไม่ใช่เราที่เป็นคนถูกเลือกเสมอไป

อ่านเพิ่มเติม : ตรวจโฉลกวัตถุมงคล คืออะไร ทำไมถึงควรตรวจก่อนบูชาพระหรือเครื่องราง?